วันพุธที่ 28 - วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2568 ส่วนวิเคราะห์ข่าวและเฝ้าระวัง (วฝ.) ภายใต้การอำนวยการของ นายทิพเมษฐ์ สังขวรรณะ ผอ.ปปส.ภาค 1 ได้จัด “โครงการสัมมนาด้านการข่าว การลักลอบลำเลียงยาเสพติดที่มีความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและในพื้นที่ ปปส. ภาค 1 และลงพื้นที่ศึกษาดูงานจังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม” ขึ้น ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย ผู้แทนตำรวจภูธรภาค 1, เจ้าหน้าที่ ปปส. ภาค 1, 3 และ 4 รวมทั้งสิ้น 38 คน โดยมีนายเพิ่มพงษ์  เชาวลิต ที่ปรึกษาสำนักงาน ป.ป.ส./อดีต เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานในพิธีเปิด 
        ซึ่งการดำเนินการโครงการดังกล่าว สืบเนื่องจากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 สำนักงาน ปปส. ภาค 1 โดย วฝ. ได้จัดทำแผนประทุษกรรม (Modus Operandi หรือ MO) คดีรายสำคัญหรือคดีที่น่าสนใจที่จับกุมได้ในพื้นที่ภาค 1 พบว่ายังคงมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดที่สามารถหลุดรอดจากการสกัดกั้นตามแนวชายแดน ทั้งจากทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านถนนเส้นทางสายหลักและสายรอง มาพักคอยในพื้นที่ภาค 1 เพื่อรอกระจายยาเสพติดไปยังพื้นที่อื่น ๆ และประเทศที่สาม ซึ่งเครือข่ายนักค้าได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลักลอบลำเลียง โดยลักลอบขนส่งในจำนวนครั้งที่ลดลง แต่เพิ่มปริมาณยาเสพติดต่อครั้ง และนำเข้าบริเวณพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อชายแดนจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ และนครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ในความรับผิดชอบของ นบ.ยส.24 ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เรื่อง กำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และผู้รับผิดชอบเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2567 
  ในการนี้จึงได้จัดให้มีเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าว บูรณาการฐานข่าวยาเสพติดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เชื่อมโยง ได้แก่ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี จ.อุดรธานี, นบ.ยส.24, บก.นรข.นครพนม, ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม, ศอ.ปส.จ.นครพนม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม, ด่านศุลกากรหนองคาย และภาคประชาชนในพื้นที่ อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ นำไปสู่การพัฒนาระบบข้อมูลด้านการข่าวยาเสพติด ที่เป็นประโยชน์ในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงสนับสนุนการสืบสวน สอบสวน และขยายผลร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการตอบรับและความสนใจเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในครั้งนี้