วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม 2568 นายทิพเมษฐ์ สังขวรรณะ ผอ.ปปส.ภ.1 มอบหมายให้นางสาวกนกวรรณ สรหงส์ ผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์ข่าวและเฝ้าระวัง และนางสาวเพชรัตน์ บัวทอง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ เข้าร่วมประชุมเข้าศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสิงห์บุรี ครั้งที่ 3/2568 โดยมีนายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ณ  ห้องประชุมขุนสรรค์ พันเรือง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรี โดย
1.  ผู้แทน ปปส.ภ.1 นำเสนอสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ ภาค 1 และพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี คดีจับกุมชาวต่างชาติ ที่ลักลอบนำเคตามีน 1 กิโลกรัม เพื่อจะไปจำหน่ายที่กรุงเทพฯ โดยถูกจับกุมได้ในพื้นที่อำเภอพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี คดีจับกุมความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในรอบ 5 เดือนแรก ราคายาเสพติด การแจ้งเตือนเฝ้าระวัง บุหรี่ไฟฟ้า และพอตเค รวมทั้งนโยบายและที่สำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ผลการดำเนินตามตัวชี้วัดบูรณาการ รวมถึงแนวทางการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก (26 มิถุนายน 2568) 
2. ศอ.ปส.จ.สิงห์บุรี. รายงานผลการดำเนินงาน ป้องกัน ปราบปราม และบำบัดในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี 
3. หน่วยงานในพื้นที่รายงานผลการดำเนินงานในห้วงเดือน มีนาคม 2568
4. ท่านประธานเน้นย้ำให้ทุกหน่วยเร่งรัดปฏิบัติงานให้เป็นไปตามตัวชี้วัด ซึ่งในด้านไหนถ้ายังมีผลการดำเนินน้อยอยู่ก็ให้เร่งดำเนินการ ส่วนตัวไหนที่ดำเนินการได้สูงก็ขอให้ปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นไปอีก เพื่อจะได้เป็นผลงานของจังหวัด ในส่วนของการแจ้งเตือนในเรื่องพอตเค ท่านประธานสอบถามยังผู้แทน ปปส.ภ.1 ว่าวิธีการสังเกต และส่งตรวจทำอย่างไรได้บ้าง ซึ่งผู้แทนปปส.ภ.1 ชี้แจงว่า พอตเค คือ บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบหนึ่ง มีหัวพอต ซึ่งภายในบรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มีส่วนผสมของยาเคตามีน (Ketamine) และเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) สารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 และ 2 เพื่อให้ความมึนเมา น้ำยามีลักษณะสีใสโปร่ง โดยพอตเคกับบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ได้มีความแตกต่างกัน เพียงแค่ดัดแปลงหัวพอตที่ถอดเปลี่ยนหัวได้ จากที่เป็นน้ำยาบุหรี่ทั่วไป เปลี่ยนเป็นใส่เคตามีน และสารอื่น ๆ เข้าไปแทนที่ การตรวจพิสูจน์ ระหว่างบุหรี่ไฟฟ้ากับพอตเค ต้องนำไปส่งตรวจทางกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จึงจะสามารถแจ้งข้อหาตามกฎหมายได้ ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มแพร่ระบาดมากขึ้น โดยกำลังแพร่กระจายในกลุ่มนักเรียน และเยาวชน ซึ่งรัฐบาลหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาข้อกฎหมายและระเบียบ และดำเนินการยกร่างกฎหมายเพื่อให้การป้องกัน ปราบปราม และควบคุมบุหรี่ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. ตัวแทนศึกษาธิการจังหวัดสิงห์บุรี ขอหารือในการมาตการ การดำเนินงานกับบุหรี่ ไฟฟ้าในโรงเรียน และสถานศึกษา เรื่องจากมีประกาศกระทรวงศึกษา เรื่องแนวทางปฏิบัติเมื่อพบบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยา นำยาสำหรับเติมบุหรี่ในสถานศึกษา เนื่องจากวิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และส่งบุหรี่ไฟฟ้าไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองสิงห์บุรี ซึ่งทางสถานีตำรวจภูธรเมืองสิงห์บุรี ได้ดำเนินการรับไว้ และโรงเรียนในอำเภออินทร์บุรี ได้ดำเนินการกวดขัน และตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า จำนวนหลายอัน แต่ทางสถานีตำรวจภูธรอินทร์บุรี ไม่รับดำเนินการเกี่ยวกับของกลางที่จะส่งมอบดังกล่าว จึงทำให้เกิดปัญหาว่าทางสถานศึกษา จะสามารถดำเนินการใดได้บ้าง โดยท่านประธานให้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภ.จว.สิงห์บุรี ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และศึกษา ร่วมกันหารือการใช้มาตรการป้องกัน และปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา และให้ ภ.จว.สิงห์บุรี ศึกษาข้อกฎหมาย และระเบียบต่างๆ เพื่อมาแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ซึ่งทาง ภ.จว.สิงห์บุรี ก็รับที่จะไปดำเนินการ
6. ศอ.ปส.จ.สิงห์บุรี นำเสนอมาตรการห่างไกลยาเสพติด ด้วยชุมชน ใส่ใจใกล้ชิด เพื่อค้นหา คัดกรอง กลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ และนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา และฟื้นฟูสภาพทางสังคม และการติดตามหลังการบำบัดรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้กลับไปเสพซ้ำ ประกอบด้วย
1. การชี้เป้าหมายกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่
2. การค้นหา คัดกรองกลุ่มเสี่ยง
3. การติดตามกลุ่มเสี่ยง เพื่อนาเข้าสู่กระบวนการบำบัด
4. การติดตามตัวและเฝ้าระวังระหว่างบำบัด
5. การติดตามเฝ้าระวังหลังการบำบัด ฟื้นฟูช่วยเหลือทางสังคม
6. การช่วยเหลือสนับสนุนเป็นพี่เลี้ยง
โดยการดูแลผู้ผ่านการบำบัด ในขั้นแรกก็ต้องช่วยกันดูแล สอดส่อง อย่างใกล้ชิด เช่นภายในครอบครัว เพื่อน พี่น้อง และญาติมิตร และในชั้นวงรอบนอก ก็ใช้กลไกการดูแล ศอ.ปส.อปท. ราชทัณฑ์ คุมประพฤติ ชุดปฏิบัติการตำบล ชุด ชรบ. จนท.ฝ่ายปกครอง ตำรวจในพื้นที่ และศูนย์คัดกรองตำบล เพื่อให้ผู้ผ่านการบำบัด ไม่กลับไปเสพยาเสพติดซ้ำอีก
7. ท่านประธาน ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดประชุมวางแผน เตรียมการดำเนินงานปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อให้จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้เสพ ผู้ติด ยาเสพติดลดน้อยลง และไม่หันกลับไปเสพยาเสพติดซ้ำ และชุมชนได้ปลอดภัยห่างไกลจากยาเสพติด