ด้วยสำนักงาน ป.ป.ส. โดยกองทุนป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด มีความประสงค์ จะขายทอดตลาดทรัพย์สิน ประเภทยานพาหนะและเครื่องมือสื่อสาร จำนวน 37 รายการ ตามคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ 345/2566 ลงวันที่ 23 มกราคม 2566 และคำสั่ง ลปส.ที่ 732/2566 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 โดยจะทำการขายทอดตลาดในวันพุธที่ 1 มีนาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ สำนักงาน ป.ป.ส. ถนนดินแดง แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร รายละเอียดปรากฏตามบัญชีแนบท้ายประกาศและมีเงื่อนไขในการขายทอดตลาด ดังนี้
๑. ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาจะติดต่อขอลงทะเบียนและดูทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาด ดังนี้
๑.๑ ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาจะติดต่อขอดูทรัพย์สินตามสถานที่เก็บรักษาทรัพย์สิน ดังนี้
- ทรัพย์สินรายการที่ 1 ณ สำนักงาน ปปส.ภาค 6 เลขที่ 112 หมู่ 6 ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ในวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น.
- ทรัพย์สินรายการที่ 2-4 ณ กองบัญชาตำรวจปราบปรามยาเสพติด เลขที่ 88 หมู่ที่ 3 ถนนวิภาวดี เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ในวันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น.
- ทรัพย์สินรายการที่ 5 ณ หน่วยปราบปรามยาเสพติดกาญจนบุรี เลขที่ 8/1 หมูที่ 3 ซอยท่าล้อ13 ตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ในวันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น.
- ทรัพย์สินรายการที่ 6-19 ณ สถานที่เก็บรักษาทรัพย์สินลาดหลุมแก้ว สำนักงาน ปปส.ภาค ๑ ตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ในวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ตั้งแต่เวลา ๑1.๐๐-๑5.๐๐ น.
- ทรัพย์สินรายการที่ 20-27, 29-37 ณ สำนักงาน ปปส.ดินแดง 5 ถนนดินแดง แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ในวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ตั้งแต่เวลา ๑0.๐๐-๑5.๐๐ น.
- ทรัพย์สินรายการที่ 28 ณ สำนักงาน ปปส.ภาค 4 เลขที่ 108 หมู่ที่ 14 ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ในวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ตั้งแต่เวลา 09.๐๐-๑6.๐๐ น.
โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ถือว่าผู้เข้าสู้ราคาได้ตรวจดูสภาพทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดจนเป็นที่พอใจแล้ว และจะไม่รับผิดชอบในความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินไม่ว่าในกรณีใดๆ
๑.๒ กำหนดการลงทะเบียนเข้าสู้ราคาประมูล ในวันพุธที่ 1 มีนาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป และจะดำเนินการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป โดยการสู้ราคาการขายทอดตลาดจะต้องเป็นหมายเลขของผู้ลงทะเบียนเท่านั้น และในการลงทะเบียนประมูลจะต้องแสดงหลักฐานบุคคลหรือหลักฐานเข้าสู้ราคาในนามบุคคลอื่นด้วย โดยผู้ประมูลจะต้องนั่งตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นไปตามพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ในการลดความแออัด และความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำนักงาน ป.ป.ส. ขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมงานประมูลทุกท่านแสดงเอกสารยืนยันผลการตรวจหาเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นลบภายใน 24 ชั่วโมง หรือแสดงเอกสารผลการรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ก่อนเข้าร่วมงาน และสำนักงาน ป.ป.ส. ขอกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การขายทอดตลาด ดังนี้
๑.๒.๑ การขายทอดตลาดจะดำเนินการตามประกาศขายทอดตลาดและระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
๑.๒.๒ การสู้ราคาการขายทอดตลาดจะต้องเป็นหมายเลขของผู้ลงทะเบียนเท่านั้น ทั้งนี้ในการลงทะเบียนประมูลจะต้องแสดงหลักฐานบุคคลหรือหลักฐานการเข้าสู้ราคาในนามบุคคลอื่น และจะต้องลงทะเบียนวางเงินประกันค่าป้ายประมูล จำนวน 300 บาท โดยผู้ประมูลจะต้องนั่งตามหมายเลขลงทะเบียนที่กำหนดไว้
๑.๒.๓ กรรมการขายทอดตลาดขอสงวนสิทธิ์ในการถอนการประมูล หากผู้ประมูลไม่ปฏิบัติตามระเบียบหรือก่อความไม่สงบในการขายทอดตลาดในรายการนั้นๆ หรือยุติการขายทอดตลาด
๒. ดำเนินการขายประมูลราคาโดยปากเปล่า ต่อหน้าคณะกรรมการขายทอดตลาดของกองทุนป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดและต่อหน้าผู้สู้ราคาที่มีอยู่
๓. คณะกรรมการขายทอดตลาดจะแสดงความตกลงด้วยการเคาะไม้ แต่หากคณะกรรมการขายทอดตลาดเห็นว่าราคาที่ผู้สู้ราคาสูงสุดยังไม่เพียงพอกับราคาทรัพย์สิน คณะกรรมการขายทอดตลาด อาจถอนรายการที่ไม่เห็นสมควรขายนั้นฯ ออกจากการขายทอดตลาดได้ และกองทุนป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะยกเลิกการขายในรายการที่ไม่เห็นสมควรนั้นๆ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ผู้เข้าสู้ราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใดๆไม่ได้ทั้งสิ้น
๔. หากคณะกรรมการขายทอดตลาด ตกลงราคาทรัพย์สินรายการใดรายการหนึ่งให้กับผู้สู้ราคาสูงสุดรายใดแล้ว ผู้นั้นจะต้องชำระเงินทันที หรือชำระมัดจำไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของราคาที่ประมูลได้ ในกรณีที่ราคาประมูลของทรัพย์สินมีราคาตั้งแต่หนึ่งแสนบาทขึ้นไป โดยชำระเงินหลังจากการประมูลแล้วเสร็จ ซึ่งกองทุนป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. จะออกใบเสร็จรับเงินไว้เป็นหลักฐาน และทำสัญญาโดยมีเงื่อนไขในการชำระราคาส่วนที่เหลือให้เสร็จสิ้น ภายในเวลาไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันขาย หากไม่ชำระให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนดกองทุนป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. จะริบเงินมัดจำนั้นเสีย และหากการขายครั้งใหม่ได้เงินจำนวนสุทธิไม่คุ้มกับการขายทอดตลาดครั้งก่อน ผู้ซื้อเดิมจะต้องรับผิดชดใช้ราคาส่วนที่ขาดอยู่นั้น
อนึ่ง การเข้าสู้ราคาในครั้งนี้ ผู้สู้ราคาทุกคนจะต้องนำบัตรประชาชน บัตรประจำตัวข้าราชการ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือบัตรแสดงตนที่ทางราชการออกให้อย่างใดอย่างหนึ่งมาแสดงในวันขายทอดตลาดด้วยและในกรณีที่ผู้สู้ราคาประสงค์จะเข้าสู้ราคาในนามบุคคลอื่น ให้แสดงใบมอบอำนาจก่อนเข้าสู้ราคา ถ้าไม่แสดงให้ถือว่าเข้าสู้ราคาในนามตนเอง ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.oncb.go.th/ข่าวขายทอดตลาดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2247-0901-19 ต่อ 34005